ความสำคัญของการ บำบัดน้ำเสียในครัวเรือน
ในแต่ละวันบ้านเรือนปล่อยน้ำเสียออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากการซักผ้า อาบน้ำ ล้างจาน หรือการใช้น้ำในห้องครัว หากไม่มีการบำบัดที่เหมาะสม น้ำเสียดังกล่าวอาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และยังทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติปนเปื้อน จึงจำเป็นต้องใช้ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย
แหล่งกำเนิดน้ำเสียในบ้าน
- ห้องน้ำ (โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า)
- ห้องครัว (คราบไขมันและเศษอาหาร)
- เครื่องซักผ้า (สารเคมีจากผงซักฟอก)
ผลกระทบหากไม่บำบัดน้ำเสีย
- เกิดการสะสมของเชื้อโรคในระบบท่อ
- เกิดกลิ่นเหม็นในบ้านและบริเวณรอบข้าง
- น้ำเสียไหลลงสู่แม่น้ำหรือบ่อเลี้ยงปลา อาจทำให้สิ่งมีชีวิตตาย
จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย คืออะไร และทำงานอย่างไร
จุลินทรีย์คือลูกเล็กที่ตามองไม่เห็น แต่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการย่อยสลายสารอินทรีย์
จุลินทรีย์ในธรรมชาติ
ในธรรมชาติ จุลินทรีย์ทำหน้าที่เหมือน “นักรีไซเคิล” คอยย่อยสลายซากสิ่งมีชีวิตและของเสีย
บทบาทของ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย
- ย่อยสลายไขมันและเศษอาหาร
- ลดความสกปรกในน้ำ (ค่า BOD, COD)
- ช่วยควบคุมกลิ่นเหม็น
ประเภทของจุลินทรีย์ที่ใช้บำบัดน้ำเสีย
- จุลินทรีย์ใช้ออกซิเจน (Aerobic): ต้องการอากาศในการดำรงชีวิต และช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ได้รวดเร็ว
- จุลินทรีย์ไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic): อยู่ได้โดยไม่ต้องมีอากาศ เหมาะสำหรับบ่อเกรอะและถังบำบัด
- จุลินทรีย์ผสม (Facultative): ปรับตัวได้ทั้งมีอากาศและไม่มีอากาศ
กลไกการย่อยสลายของจุลินทรีย์
เมื่อเติมจุลินทรีย์ลงไปในระบบบำบัดน้ำเสีย กระบวนการทำงานจะเริ่มทันที โดยมีหลักการดังนี้
การสลายสารอินทรีย์
จุลินทรีย์จะใช้อาหารจากสารอินทรีย์ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และน้ำมัน จากน้ำเสีย แล้วเปลี่ยนให้เป็นสารที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และก๊าซมีเทน
การย่อยไขมันและเศษอาหาร
ไขมันที่มักอุดตันท่อระบายน้ำ จะถูกจุลินทรีย์บางสายพันธุ์ย่อยสลายจนแตกตัวเป็นกรดไขมันขนาดเล็ก และสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นก๊าซและน้ำ
การลดกลิ่นเหม็น
หนึ่งในปัญหาหลักของน้ำเสียในบ้านคือกลิ่นไม่พึงประสงค์ การใช้จุลินทรีย์ช่วยกำจัดสารก่อกลิ่น เช่น กำมะถัน และแอมโมเนีย ทำให้บ้านไม่มีกลิ่นรบกวน
ข้อดีของการใช้ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ในบ้าน
การเลือกใช้จุลินทรีย์มีประโยชน์มากมาย ทั้งด้านสุขอนามัย สิ่งแวดล้อม และค่าใช้จ่าย
- ลดกลิ่นรบกวน: ช่วยให้น้ำเสียไม่ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบ้าน
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องลงทุนระบบบำบัดขนาดใหญ่ สามารถดูแลเองได้ในครัวเรือน
- ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม: ไม่มีสารเคมีตกค้างในน้ำ
- บำรุงรักษาง่าย: แค่เติมจุลินทรีย์ตามรอบที่กำหนด
เปรียบเทียบการบำบัดน้ำเสียด้วยสารเคมีกับจุลินทรีย์
| เกณฑ์ | สารเคมี | จุลินทรีย์ |
|---|---|---|
| ประสิทธิภาพ | กำจัดกลิ่นเร็ว แต่ไม่ยั่งยืน | ย่อยสลายของเสียได้ต่อเนื่อง |
| ความปลอดภัย | อาจก่อสารพิษตกค้าง | ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม |
| ผลระยะยาว | อาจทำให้ท่อเสื่อมสภาพ | ช่วยรักษาระบบบำบัดในระยะยาว |
จากตารางจะเห็นได้ว่า การใช้จุลินทรีย์ถือว่าเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนมากกว่า
วิธีการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียในครัวเรือน
- การเทจุลินทรีย์ลงท่อระบายน้ำ
- เหมาะสำหรับบ้านที่มีกลิ่นจากท่อน้ำทิ้ง
- ควรเติมเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง
- การใช้ในถังบำบัดน้ำเสีย
- เติมจุลินทรีย์ลงในถังเกรอะหรือถังแซท
- ช่วยให้ของเสียย่อยสลายเร็วขึ้น
- การใช้ในบ่อเกรอะ-บ่อซึม
- เหมาะสำหรับบ้านต่างจังหวัดที่ใช้บ่อเกรอะ
- จุลินทรีย์ช่วยลดตะกอนสะสม ทำให้ไม่ต้องสูบส้วมบ่อย
กรณีศึกษา: บ้านที่ใช้จุลินทรีย์สำเร็จรูปในการบำบัด
บ้านหนึ่งในกรุงเทพฯ เคยประสบปัญหากลิ่นเหม็นจากท่อน้ำทิ้งและต้องสูบส้วมบ่อย หลังจากเริ่มใช้จุลินทรีย์บำบัด กลิ่นเหม็นลดลงอย่างเห็นได้ชัด และไม่ต้องเรียกรถดูดส้วมบ่อยเหมือนเดิม
สรุปและคำแนะนำ
การใช้ จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียในบ้าน เป็นวิธีที่ทั้งง่าย ประหยัด และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม จุลินทรีย์สามารถช่วยลดกลิ่นเหม็น ย่อยสลายของเสีย และช่วยยืดอายุการใช้งานของถังบำบัดได้ ทุกบ้านจึงควรหันมาใช้วิธีนี้เพื่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น
สนใจสินค้า ติดต่อ





